Grab Driver: สำหรับคนขับแกร็‪บ‬ 4+

ปรับปรุงใช้งานง่ายขึ้น ด้านความปลอดภัยดีมากขึ้น แต่อยากช่วยลดจำนวนการยืนยันให้น้อยลด เพราะเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ขับ และลดอัตราการโดนแบนถาวร

ซึ่งตอนนี้ให้ถ่ายรูปสแกนหน้าเยอะเกินความจำเป็นด้านความปลอดภัย เช่น สแกนก่อนออนไลน์ สแกนหลังจบงาน สแกนทุกครั้งที่สลับปิด-เปิด เป็นต้น

ขอความเห็นใจสำหรับคนที่ขับแกร็บมานาน เพราะเราหาค่าคอมมิชชั่นให้กับแกร็บไปแล้วเท่าไหร่ มันไม่ยุติธรรมเลยที่เพิ่มความปลอดภัยด้วยวิธีนี้ เสี่ยงต่อการโดนแบนถาวรมากขึ้น หรือความปรับให้สามารถยื่นอุทธรณ์ได้มากกว่า 1 ครั้ง หรือรับฟังเหตุผลก่อนที่จะให้ระบบแบนถาวรแบบไร้เหตุผล แค่การสแกนหน้าไม่ผ่าน 2 ครั้ง โดนแบนถาวร

โปรดเข้าใจคนขับแกร็บ ไม่ได้ใช้ iPhone ทุกคน และก็ไม่ได้ใช้สมาทโฟนเครื่องหลักหมื่นทุกคน จึงต้องฝากดวงไว้กับกล้องหน้าทุกครั้งที่แอพขึ้นสแกนถ่ายรูปยื่นยัน

ช่วยปรับลดเหลือสักวันละครั้ง ย้ำ!! วันละครั้ง อยากให้คนขับแกร็บเก่าๆ ที่จ่ายค่าคอมมิชชั่นไม่ถึง 25 เปอร์เซ็นต์หมดไปเลย แล้วเลือกวิธีเปิดรับคนใหม่เพื่อเก็บค่าคอมมิชชั่น 25 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการเพิ่มโอกาสโดนแบนถาวร แล้วบอกว่าเพื่อความปลอดภัย

ทำงานเก็บเงินซื้อเบนซ์มือสอง ขับไปขับมาเจอค่าน้ำมันแพง มาลองขับ grab premium เป็นหลัก ลงทะเบียนง่าย รอ 2-3 วันก็เริ่มขับได้ ไหนๆก็ต้องขับเข้าเมืองไปทำงานทุกวันอยู่แล้ว ขับ grab ได้ทั้งเงินได้ทั้งเพื่อนนั่งไปด้วยทั้งขาไปและขากลับ ตื่นมาเริ่มวันก็รับงานจองล่วงหน้า แผนที่ใช้ง่ายส่วนมากตรงถึงที่ผู้โดยสารปักหมุด มีแต่ว่าบางครั้งก็ต้องเปิด Google map เสริมนิดหน่อย

น่าจะปรับ ค่าคอมมิชชั่น เป็นรายครั้งได้แล้ว คิดตามระยะทางไม่ไหว เรียกเก็บเยอะไป
ลูกค้าเรียก จากนครปฐมไปซีคอนบางแค

ค่าโดยสารรวม 518 บาท
- รับจริง 389 บาท แกร๊บหักไป 154 แล้ว
( คิดเล่นๆ )
เดินทางจากที่อยู่ ไปที่หมาย 55 กิโล ( ไปกลับ 110 กิโล )
เติมน้ำ สัก 200 จากระยะทางนี้ เหลือค่าเหนื่อย 189 บาท จากงานนี้

ค่าเหนื่อยผม 189 Vs ค่าเหนื่อยแกร๊บหัก 154

ไม่อยากรับเลยงานไกล ไม่คุ้ม ไหนขากลับตีรถเปล่ากลับอีก 😭😭😭

สาธุพระเจ้า ให้ผู้บริหารท่าน เปลี่ยนมาเก็บค่าคอมรายครั้งที่เถอะ อินเซนทีฟไม่เอากะได้